นครศรีธรรมราช-ชาวบ้านถนนเลียบริมทะเลสายปากพนัง หัวไทรถูกคลื่นสูงซัดบ้านพัง ขณะเรือประมงอัปปาง5ลูกเรือขึ้นฝั่งปลอดภัยแล้ว
เมื่อวันที่26ม.ค.59 คลื่นทะเลขนาดใหญ่สูง2-4เมตร ได้ซัดเข้าชายฝั่งที่ถนนเลียบริมทะเลสายปากพนัง-หัวไทร ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดืดร้อนอย่างหนัก
ถนนเลียบริมทะเลสายปากพนัง-หัวไทร เป็นเส้นทางหลักเชื่อม 2 อำเภอ ถูกคลื่นซัดจนพังเสียหายบางจุดที่ต.ท่าพญา อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช มีบ้านเรือนของชาวบ้านถูกคลื่นซัดจนพังเสียหาย 2 หลัง ต้นสนโดนคลื่นซัดลม 6-7 ต้น
นางอุมาพร ศรีเพชร ชาวบ้าน ม.10 ต.ท่าพญา คลื่นซัดบ้านพังทั้งหลังได้กล่าวว่า คลื่นลมครั้งนี้ใหญ่กว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ซัดเข้าฝั่งไกลกว่าด้วย ครั้งก่อนคลื่นซัดไม่ถึงตัวบ้าน แต่ครั้งนี้ถึงตัวบ้านจนพังเสียหาย ต้องขนข้าวของเครื่องใช้ สัตว์เลี้ยงวัวควายมาอาศัยอยู่ริมถนน และต้องอาศัยเพื่อนบ้านเป็นการชั่วคราว นอกจากนี้บ้านของญาติอีกหลังก็พังทั้งหลังเช่นกัน ถ้าเขามีที่อยู่ให้ตนและญาติคงไม่อยู่ในพื้นที่แห่งนี้อีกต่อไป เพราะคลื่นยังมีมากกว่านี้ ใหญ่กว่านี้อีก
นายไชยชาญ ดำรัก อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/1 ม.8 ต.บางศาลา อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เจ้าของเรือเกศวิชัย ได้นำเรืออวนปูพร้อมกับลูกเรือ 4 คน ตั้งแต่ช่วงกลางวันของวันที่ 24 ม.ค.59 หลังได้รับแจ้งว่ามีคลื่นลมแรงก็ได้นำเรือแล่นเข้าฝั่งในช่วงเวลา 22.00 น.ของวันที่ 25 ม.ค.59 แต่ไม่ทันถึงฝั่งก็ถูกคลื่นสูงซัดอับปาง ลูกเรือรวม 5 คน พยายามหาสิ่งของเกาะยึดโดยได้ฝาลังพลาสติกที่ใช้ใส่ปูมาเกาะเพื่อเอาชีวิตรอดพยายามตะกายเข้าฝั่งจนสามารถเข้าฝั่งได้อย่างปลอดภัย ที่บ้านท่าสูงบน ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา เมื่อช่วงเวลา 02.00น.
นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ออกสำรวจแนวชายฝั่งทะเลหลายอำเภอ ระบุว่า ได้สั่งการให้ขนย้ายสิ่งของออกจากพื้นที่แล้ว ต้องติดตามสภาพอากาศอีก 3 วันตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือนไว้ และหลังสำรวจความเสียหายก็ให้ความช่วยเหลือต่อไป.
