ข่าวน่าสนใจ

พวงหรีด พาสติก

พวงหรีด

ยังอยู่ปลอดภัย ตัวประกันไทย 20 คน นายกฯ มาเลย์ โทรแจ้งข่าวดี


“เศรษฐา” ขอบคุณนายกฯ มาเลเซีย หลังโทรศัพท์แจ้งข่าวขอให้สบายใจ 20 ตัวประกันคนไทยในอิสราเอลถูกนำมารวมกันและปลอดภัยดี ยังตามหาอีก 3 คน เผยสั่งเตรียมเครื่องบิน-เส้นทางการบิน พร้อมอพยพ “ปานปรีย์” แจ้งผลถก 3 ชาติอาหรับช่วยตัวประกัน ส่วนศึกสงครามยังรุนแรง อิสราเอลบุกโจมตีศูนย์บัญชาการกลุ่มฮามาสในเขตกาซาซิตี้ ขณะที่กลุ่มฮามาสพร้อมเจรจาปล่อยตัวประกันทั้งหมดและเรียกร้องให้อิสราเอลปล่อยผู้ถูกคุมขังเช่นกันครอบครัวของแรงงานไทยในอิสราเอลที่ถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกันทั้ง 23 ราย ที่เฝ้ารอด้วยความหวังว่าบรรดาตัวประกันจะถูกปล่อยเป็นอิสระเดินทางกลับสู่อ้อมกอดครอบครัว ต่างพากันโล่งใจ

เมื่อมีข่าวดีจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ว่า นายกรัฐมนตรีมาเลเซียที่ได้ให้ความช่วยเหลือประเทศไทยในเรื่องนี้ แจ้งมาว่าตัวประกันไทยทุกคนยังปลอดภัยดีกำลังถูกลำเลียงมาอยู่รวมกันเพื่อรอวันปล่อยตัว

นายกฯมาเลย์ยันตัวประกันปลอดภัย

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 11.33 น. วันที่ 3 พ.ย. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลังให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอลว่า ขณะนี้ความคืบหน้ากำลังคอยให้ความรุนแรงของสงครามในบางเขต ที่สามารถจะพอนำตัวประกันออกมาได้ เมื่อวันที่ 2 พ.ย. นายกฯมาเลเซียได้โทรศัพท์มาหาแจ้งให้ทราบว่า ตอนนี้ตัวประกันคนไทยจำนวน 12 คนกลุ่มหนึ่ง และอีกกลุ่มหนึ่ง 8 คน กำลังถูกลำเลียงมาอยู่ในที่เดียวกัน เพื่อเตรียมเมื่อมีจังหวะดีจะถูกย้ายออกมาอยู่รวมกัน ส่วนอีก 2-3 คนกำลังหาว่าอยู่จุดใด เมื่อถามว่า ครอบครัวของตัวประกันสบายใจได้แล้วใช่หรือไม่ว่า ยังมีความปลอดภัยอยู่ นายเศรษฐาตอบว่า ครับ อย่างที่บอกไปตามนั้น เพียงแต่ยังหาตัวไม่ได้อีก 2-3 คน แต่จำนวน 20 คน นายกฯมาเลเซียยืนยันว่า ขอให้สบายใจได้ว่าปลอดภัย

“เศรษฐา” สั่งเตรียมพร้อมเส้นทางบิน

นายกฯกล่าวว่า แต่ยังมีความกังวลอยู่ว่าสถานภาพของตัวประกันจะเป็นอย่างไร แต่จากการที่ได้พูดคุยกับนายกฯมาเลเซียที่ได้กรุณาโทรศัพท์มาด้วยตนเอง ท่านเป็นมิตรกับเราและรู้ว่าพี่น้องคนไทยมีความเป็นห่วง รวมถึงจากการที่ ผบ.ทหารสูงสุดเดินทางไปเจรจาอย่างหนักที่มาเลเซียช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงให้ความสำคัญตรงนี้ ได้ขอบคุณนายกฯมาเลเซีย ท่านบอกว่าหากมีความคืบหน้าจะโทรศัพท์มาแจ้งให้ทราบ อีกทั้งการที่นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯและ รมว.ต่างประเทศ เดินทางไปที่กาตาร์และอียิปต์ ต่างฝ่ายต่างช่วยกันอย่างเต็มที่ หลังจากนี้จะสั่งการให้เตรียมพร้อมเครื่องบินไว้ แม้ว่าขณะนี้ไม่มีคนไทยในอิสราเอลแสดงเจตจำนงกลับไทยแล้ว แต่ต้องเตรียมเส้นทางการบินไว้ หากมีความต้องการจะอพยพคนไทยในประเทศอื่นที่ไม่ใช่อิสราเอล จะได้เคลียร์เส้นทางการบินล่วงหน้า

“ปานปรีย์” แจงผลถก 3 ชาติอาหรับ

ที่กระทรวงการต่างประเทศ ตอนสายวันเดียวกัน นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศ แถลงถึงการเยือนประเทศกาตาร์และอียิปต์ระหว่างวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย. หารือกับบุคคลสำคัญของ 3 ประเทศคือ กาตาร์ อียิปต์ และอิหร่าน ให้ช่วยเจรจากับกลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันชาวไทยว่า ทั้ง 3 ประเทศแสดงท่าทีพร้อมช่วยเหลือไทยอย่างเต็มที่และรัฐมนตรีของ 3 ประเทศเหล่านี้คิดว่าคนไทยในอิสราเอลคือกลุ่มคนที่มาทำธุรกิจ จึงชี้แจงให้ทราบว่าคนไทยในอิสราเอลส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร มาจากครอบครัวที่มีรายได้น้อยไปทำมาหากินในอิสราเอล หารายได้ส่งกลับมาให้ครอบครัวที่ประเทศไทย แรงงานไทยจึงไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองหรือความขัดแย้งใดๆทั้งสิ้น รัฐมนตรีประเทศต่างๆรู้สึกตกใจ ขณะที่ตนขอให้ทั้ง 3 ประเทศช่วยนำข้อมูลดังกล่าวไปสื่อสารกับกลุ่มฮามาส เพื่อให้กลุ่มฮามาสทราบว่าคนไทยที่ถูกพวกเขาจับไปนั้นเป็นเพียงเกษตรกร

อียิปต์ให้รับที่จุดผ่านแดนราฟาห์

นายปานปรีย์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ข้อมูลจากการหารือมีสิ่งที่ทำให้แปลกใจ คือกลุ่มฮามาสที่จับตัวคนไทยไม่ได้มีกลุ่มเดียว แต่อาจมี 2 กลุ่มขึ้นไป ทำให้การเจรจาเพื่อให้ปล่อยตัวประกันไม่สามารถเจรจากับกลุ่มฮามาสได้แค่กลุ่มเดียว จึงอาจต้องแยกไปเจรจากับกลุ่มที่ 2 หรือ 3 ด้วย ได้ขอร้องให้ 3 ประเทศนี้ ช่วยผลักดันการเจรจาเพื่อให้ปล่อยตัวคนไทยเร็วที่สุด ขณะที่เขาบอกว่าเนื่องจากเวลานี้ยังอยู่ในช่วงสู้รบ จึงอยากให้ไทยสนับสนุนให้มีการหยุดยิงโดยเร็วถ้ามีการหยุดยิงจะทำให้มีโอกาสปล่อยตัวประกันได้เร็วขึ้นด้วย สำหรับนายกรัฐมนตรีกาตาร์เชื่อว่าคนไทยจะได้รับการปล่อยตัวเป็นกลุ่มแรก ทำให้รู้สึกสบายใจขึ้น รมว.ต่างประเทศอิหร่านที่หลายฝ่ายเชื่อว่ามีความใกล้ชิดกับกลุ่มฮามาสรับปากว่าจะช่วยเจรจาให้มีการปล่อยตัวคนไทยโดยเร็ว เช่นเดียวกับ รมว.ต่างประเทศอียิปต์รับปากว่าจะรีบดำเนินการช่วยหาทางให้มีการปล่อยตัวคนไทยด้วย ได้แจ้งต่อทั้ง 3 ประเทศว่าหากมีการปล่อยตัวประกันชาวไทยแล้ว ขอให้ช่วยแจ้งต่อเอกอัครราชทูตไทยที่ประจำประเทศเหล่านี้ได้รับทราบทันที เพื่อที่เราจะเตรียมไปรับตัวคนไทย รมว.ต่างประเทศอียิปต์อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ของไทยสามารถเข้าไปรับตัวประกันชาวไทยที่จุดผ่านแดนราฟาห์ได้

ขอบคุณทุกคนที่ร่วมช่วยตัวประกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทีมงานของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ที่กำลังพยายามเจรจาเพื่อขอให้มีการปล่อยตัวคนไทยด้วยนั้น ได้ทำงานร่วมกับรัฐบาลไทยด้วยหรือไม่ นายปานปรีย์ตอบว่า ขอบคุณที่ทุกคนและกลุ่มต่างๆ ที่พยายามช่วยเหลือให้มีการปล่อยตัวคนไทยกลับมาอย่างปลอดภัย ขอบคุณทุกฝ่ายที่มีความตั้งใจและอาศัยเครือข่ายที่มีอยู่ รัฐบาลไทยไม่ได้จำกัดเฉพาะการทำงานของฝ่ายรัฐบาล แต่หากภาคเอกชนหรือฝ่ายการเมืองมีเครือข่ายที่เข้ามาช่วยด้วย ยินดีและดีใจด้วยซ้ำที่จะช่วยให้คนไทยกลับมาเร็วที่สุด เมื่อถามว่ามีแผนจะไปหารือกับประเทศอื่นๆ ในกลุ่มอ่าวอาหรับหรือไม่ นายปานปรีย์กล่าวว่า ถ้ามีประเทศใดช่วยเหลือพร้อมจะไปพูดคุย ยืนยันว่ามีคนไทยที่ถูกจับไป 23 ราย

นำคนไทยกลับรวมกว่า 8 พันคน

ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 04.08 น. วันที่ 3 พ.ย.นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงแรงงาน นางชโลบล ขจรผดุงกิตติ ผู้ตรวจราชการกรมการจัดหางาน พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมต้อนรับและดูแลอำนวยความสะดวกแรงงานไทยในอิสราเอลที่เดินทางกลับไทยด้วยสายการบิน El Al Israel Airlines เที่ยวบิน LY 085 จำนวน 91 คน หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำการยื่นคำร้องขอรับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ ทั้งนี้ มีแรงงานเดินทางกลับถึงไทยแล้ว 53 เที่ยวบิน จำนวน 8,728 คน ในจำนวนนี้ยื่นคำร้องแล้ว 5,080 คน ได้รับการวินิจฉัยสั่งจ่ายแล้ว 1,619 คน เป็นเงินกว่า 24 ล้านบาท และยังคงมีแรงงานไทยทำงานในอิสราเอล 21,229 คน

แรงงานไทยวอนเพื่อนกลับบ้าน

ที่ จ.นครสวรรค์ น.ส.ชุติพร เสชัง รอง ผวจ. พร้อมด้วยนางวราภรณ์ เสริมภักดีกุล นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครสวรรค์ นางศุภลักษณ์ ศรุติรัตน์วรกุล แรงงานจังหวัดนครสวรรค์ ผอ.โรงพยาบาลจิตเวชนครสวรรค์ราชนครินทร์ อบต.ย่านมัทรี ร่วมกันไปมอบสิ่งของให้กำลังใจนายสมปอง จิบจันทร์ แรงงานไทยในอิสราเอลที่เดินทางกลับภูมิลำเนา อยู่บ้านเลขที่ 45 หมู่ 2 ต.ย่านมัทรี อ.พยุหะคีรี นายสมปองได้ขอบคุณรัฐบาลไทย สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ และทุกหน่วยงานที่ช่วยเหลือ รวมทั้งยังแสดงความเป็นห่วงเพื่อนแรงงานไทยในอิสราเอล อยากให้รีบกลับ เพราะตอนนี้สถานการณ์ทวีความรุนแรงมากขึ้น แรงงานจังหวัดจะช่วยเหลือและติดตามค่าจ้างค้างจ่ายให้

ผวจ.เป็นตัวแทนนายกฯวางหรีด

ที่ จ.กาฬสินธุ์ นายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ. เป็นตัวแทนนำหรีดของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง และพวงหรีดผู้ว่าราชการจังหวัดนายกเหล่ากาชาดจังหวัด ไปวางหน้าศพนายสมควร พันธ์สะอาด อายุ 39 ปี แรงงานไทยในอิสราเอลที่เสียชีวิตและถูกนำร่างส่งคืนครอบครัวมาตั้งสวดพระอภิธรรม ที่บ้านเลขที่ 127 บ้านหนองแวงใต้ หมู่ 3 ต.ขมิ้น อ.เมืองกาฬสินธุ์ มีข้าราชการและตัวแทนหน่วยงานในจังหวัดกับญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านของครอบครัวนายสมควรร่วมพิธี โดยมีพิธีสวดอภิธรรมถึงวันที่ 4 พ.ย. ฌาปนกิจวันที่ 5 พ.ย. ที่วัดหาฤทธาราม ในหมู่บ้านขมิ้น ต.ขมิ้น อ.เมืองกาฬสินธุ์ นายสนั่นได้มอบเงินกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานฯ จำนวน 40,000 บาท นอกจากนี้นายสมควรเคยเป็นผู้ประกันตน จึงได้รับสิทธิประโยชน์กองทุนประกันสังคม กรณีบำเหน็จชราภาพ จำนวน 41,567 บาท ยังไม่รวมดอกผลด้วย

ส่งเที่ยวบินสุดท้าย–ปิดศูนย์พักพิง

วันเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ประกาศผ่านเพจเฟซบุ๊ก “Royal Thai Embassy, Tel Aviv” ว่า ตามที่สถานเอกอัครราชทูตประกาศให้คนไทยที่ประสงค์กลับประเทศเดินทางไปที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.และได้จัดเที่ยวบินอพยพคนไทยแล้ว 35 เที่ยวบิน ต่อมามีผู้มาแจ้งขอกลับไทยที่ศูนย์พักพิงน้อยลงมาก จึงจัดเที่ยวบินเช่าเหมาลำอพยพคนไทยเที่ยวสุดท้ายเมื่อวันที่ 3 พ.ย.และได้ปิดศูนย์พักพิงแล้ว สถานเอกอัครราชทูตขอยืนยันว่ารัฐบาลไทยยังดูแลผู้ที่ประสงค์กลับไทยในช่วงสงคราม โดยนำหลักฐานการเดินทางไปยื่นเรื่องขอรับเงินคืนที่สำนักงานแรงงานจังหวัดของแรงงานไทยแต่ละราย หากมีข้อสงสัยและต้องการความช่วยเหลือติดต่อสถานเอกอัครราชทูต (ศูนย์ช่วยเหลือคนไทย) ได้ที่หมายเลข 05-3245-2826, 05-5271-2201, 05-0443-8094 และ 05-3557-4115 หรืออินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก www.facebook.com/thaiembassytelaviv  (ทุกเรื่องเมืองยิว), อีเมล [email protected]  กรณีฉุกเฉินติดต่อหมายเลข 05-4636-8150

ปิดล้อมโจมตีศูนย์บัญชาการฮามาส

สำหรับสถานการณ์การสู้รบระหว่างกองทัพอิสราเอลกับกองกำลังติดอาวุธปาเลสไตน์กลุ่มฮามาส ทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อวันที่ 3 พ.ย. สำนักข่าวอัลจาซีรารายงานอ้างแหล่งข่าวในพื้นที่ว่า กองทัพอิสราเอลโจมตีทางอากาศในบริเวณโรงพยาบาลอัล-คุดส์ รวมถึงสถานพยาบาลที่ตั้งอยู่ในเมืองทัล อัล-ฮาวา ทางตะวันตกของกาซาซิตี้ ยังคงถูกโจมตีจากอิสราเอลเช่นกัน ขณะเดียวกัน พล.ร.ต.แดเนียล ฮาการี โฆษกกองกำลังป้องกันตนเองอิสราเอล (IDF) เผยว่า กองทัพอิสราเอลปฏิบัติการปิดล้อมกาซาซิตี้ ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา ที่เป็นศูนย์บัญชาการของกลุ่มฮามาสอย่างสมบูรณ์ และกองทัพกำลังต่อสู้อย่างเต็มรูปแบบ พล.ร.ต.ฮาการียังปฏิเสธการหยุดยิง แม้จะมีเสียงเรียกร้องจากนานาชาติให้หยุดยิงเพื่อยุติความรุนแรงในฉนวนกาซาก็ตาม ด้านนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เผยว่า ตอนนี้การสู้รบของกองทัพกำลังดุเดือดเข้มข้น อิสราเอลประสบความสำเร็จในการยกระดับการสู้รบและยังเคลื่อนพลผ่านชานเมืองของกาซาซิตี้ได้

พร้อมเจรจาปล่อยตัวประกันทั้งหมด

วันเดียวกัน นายกาซี ฮาหมัด หนึ่งในผู้นำฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาส ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอ็นบีซีนิวส์ของสหรัฐฯ ว่า ผู้นำฮามาสพร้อมเจรจาประนีประนอมปล่อยตัวประกันที่กลุ่มฮามาสจับไปตั้งแต่เกิดการสู้รบระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายเมื่อวันที่ 7 ต.ค. นายฮาหมัดเรียกร้องให้ทางการอิสราเอลปล่อยผู้ถูกคุมขังทั้งหมด ในสถานกักกันของอิสราเอล รวมถึงเรียกร้องให้อิสราเอลยุติการรุกรานเข้ามาในฉนวนกาซา เมื่อถูกถามว่ากลุ่มฮามาสเรียกร้องให้หยุดยิง แต่ทำไมยังโจมตีอิสราเอลอยู่ นายฮาหมัดตอบว่า ฮามาสต้องการสู้เพื่อต่อต้านการยึดครองดินแดน นี่เป็นเรื่องที่ฮามาสย่อมทำได้ตามกฎหมายระหว่างประเทศ ผู้นำฮามาสยังระบุว่า จะหารือทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องตัวประกันและนักโทษได้ หากมีการหยุดการสู้รบในฉนวนกาซา ดังนั้นจึงควรมีการยุติการโจมตีรวมถึงยุติการเข่นฆ่าประชาชนในกาซา



Source link

LEAVE A RESPONSE

Your email address will not be published. Required fields are marked *