MADRID — สเปนเริ่มต้นช่วงเทศกาลในวันพฤหัสบดีด้วยการเฉลิมฉลองหนึ่งในกิจกรรมที่โดดเด่นที่สุด นั่นคือการจับสลากคริสต์มาสที่เรียกกันว่า “El Gordo” (The Fat One)

รางวัลที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดคือ 400,000 ยูโร (425,000 เหรียญสหรัฐ) หรือประมาณ 325,000 ยูโรหลังหักภาษี สำหรับผู้ที่ได้รับรางวัลตั๋ว 20 ยูโรหรือที่เรียกว่า décimos

เพื่อให้เป็นไปตามประเพณี เด็ก ๆ จากโรงเรียน San Ildefonso ในกรุงมาดริดจะเป็นผู้จับหมายเลขที่ชนะในการจับรางวัลทางโทรทัศน์ทั่วประเทศที่โรงละครโอเปร่า Teatro Real ในกรุงมาดริด

ลอตเตอรี่ที่ได้รับความนิยมอย่างเหลือเชื่อนี้จะออกเงินรางวัลรวม 2.5 พันล้านยูโร (2.7 พันล้านดอลลาร์) โดยส่วนใหญ่จะเป็นรางวัลเล็กๆ อีกหลายร้อยรางวัล

การซื้อและแบ่งปันตั๋วราคา 20 ยูโร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงใกล้ถึงคริสต์มาส เป็นประเพณีที่สำคัญในหมู่ครอบครัว เพื่อน เพื่อนร่วมงาน และในบาร์ สปอร์ตคลับ และโซเชียลคลับ

ลอตเตอรี่อื่นๆ มีเงินรางวัลสูงสุดแต่ละรางวัลที่ใหญ่กว่า แต่ลอตเตอรี่คริสต์มาสของสเปนซึ่งจัดขึ้นทุกปีในวันที่ 22 ธันวาคม ได้รับการจัดอันดับให้เป็นผู้ร่ำรวยที่สุดในโลกจากเงินรางวัลทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง

สเปนจัดตั้งลอตเตอรีแห่งชาติขึ้นเพื่อการกุศลในปี 1763 ในรัชสมัยของกษัตริย์คาร์ลอสที่ 3 วัตถุประสงค์ต่อมากลายเป็นการหนุนเงินกองทุนของรัฐ นอกจากนี้ยังช่วยงานการกุศลต่างๆ

ลอตเตอรีคริสต์มาสในวันที่ 22 ธันวาคมเริ่มขึ้นในปี 1812 ตั้งแต่เริ่มต้น เด็กๆ จากวิทยาลัย San Ildefonso ได้ร้องเพลงหมายเลขที่ออกและรางวัลที่ตรงกัน

เซสชั่นซึ่งเริ่มตั้งแต่เวลา 9.00 น. โดยปกติจะใช้เวลาประมาณสี่ชั่วโมง